ประโยคขอโทษ เป็นหนึ่งในเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญมากในภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะเมื่อเราทำผิดพลาดในสถานการณ์ต่าง ๆ การเลือกใช้ประโยคให้เหมาะสมสามารถช่วยลดความเข้าใจผิดและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นได้ ในชีวิตประจำวันไม่ว่าเราจะทำผิดโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ การขอโทษอย่างเหมาะสมถือเป็นมารยาทที่สำคัญ โดยเฉพาะในบริบทของภาษาอังกฤษ การใช้ประโยคขอโทษ (Apology Sentences) อย่างถูกต้อง ไม่เพียงแสดงความสุภาพ แต่ยังช่วยรักษาความสัมพันธ์และความเข้าใจที่ดีระหว่างกันอีกด้วย
ประโยคขอโทษพื้นฐานที่ใช้ในชีวิตประจำวัน (Basic Apology Sentences)
ประโยคขอโทษที่ใช้บ่อยและง่ายที่สุด
-
I'm sorry. (ฉันขอโทษ)
-
Sorry about that. (ขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนั้น)
-
I apologize. (ฉันขออภัย)
-
My apologies. (ขออภัยด้วย)
-
Excuse me. (ขอโทษนะครับ/ค่ะ)
คำขอโทษที่เพิ่มความจริงใจ
-
I’m really sorry for... (ฉันขอโทษจริงๆ สำหรับ...)
-
I sincerely apologize for... (ฉันขออภัยอย่างจริงใจสำหรับ...)
-
Please forgive me for... (โปรดยกโทษให้ฉันสำหรับ...)
-
I take full responsibility for... (ฉันขอรับผิดชอบเต็มที่สำหรับ...)
ตารางเปรียบเทียบการใช้ประโยคขอโทษพื้นฐาน
ประโยคภาษาอังกฤษ | ความหมายภาษาไทย | ความสุภาพ | สถานการณ์ใช้งาน |
---|---|---|---|
I'm sorry. | ฉันขอโทษ | ปานกลาง | ทุกสถานการณ์ทั่วไป |
I apologize. | ฉันขออภัย | ทางการ | สถานการณ์เป็นทางการ, งาน |
My apologies. | ขออภัยด้วย | ทางการสูง | เขียนจดหมายหรืออีเมลอย่างเป็นทางการ |
Excuse me. | ขอโทษนะครับ/ค่ะ | สุภาพ | ขอผ่านหรือขอความสนใจ |
I take full responsibility. | ฉันรับผิดชอบเต็มที่ | จริงจังและทางการ | กรณีที่ต้องยอมรับความผิดชัดเจน |
เทคนิคการใช้
-
ใช้ "I'm sorry" ได้ทุกสถานการณ์ ไม่ดูเป็นทางการมาก
-
ใช้ "I apologize" และ "My apologies" เมื่อต้องการความเป็นทางการ
-
"Excuse me" ใช้เมื่อต้องการขออนุญาตหรือเรียกความสนใจ
-
ใช้ "I take full responsibility" เมื่อรับผิดชอบอย่างจริงจัง
การใช้ประโยคขอโทษพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เช่น ลืมสิ่งของ ทำผิดพลาดเล็ก ๆ หรือทำคนอื่นไม่พอใจเล็กน้อย คุณสามารถใช้คำง่าย ๆ เช่น "I'm sorry" หรือ "Sorry about that" ได้เลย โดยไม่ต้องคิดมาก การเพิ่มคำว่า "really" หรือ "sincerely" จะทำให้ประโยคฟังดูจริงใจขึ้นมาก
ตัวอย่างบทสนทนา
A: I'm sorry I'm late. (ขอโทษที่ฉันมาสาย)
B: That's okay. Don't worry. (ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล)
ในสถานการณ์ที่ต้องขอโทษอย่างเป็นทางการ เช่น ที่ทำงาน หรือการเขียนจดหมาย คุณควรใช้ประโยคอย่าง "I apologize for the mistake." (ฉันขออภัยสำหรับความผิดพลาดนี้) หรือ "My apologies for the inconvenience." (ขออภัยในความไม่สะดวก)
2. ประโยคขอโทษในสถานการณ์เฉพาะ (Apology Sentences for Specific Situations)
การขอโทษในที่ทำงาน
-
I apologize for the delay in submitting the report. (ขออภัยสำหรับการส่งรายงานที่ล่าช้า)
-
I’m sorry for any inconvenience caused. (ขอโทษสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น)
-
Please accept my sincere apologies. (โปรดรับคำขอโทษอย่างจริงใจของฉัน)
การขอโทษในความสัมพันธ์ส่วนตัว
-
I’m really sorry if I hurt your feelings. (ฉันขอโทษจริง ๆ หากทำให้คุณเสียใจ)
-
Please forgive me for my mistake. (โปรดยกโทษให้ฉันสำหรับความผิดพลาดของฉัน)
-
I didn’t mean to upset you. (ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณไม่พอใจ)
ตารางตัวอย่างการใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ
สถานการณ์ | ประโยคขอโทษภาษาอังกฤษ | คำแปลภาษาไทย |
---|---|---|
ที่ทำงาน | I apologize for the delay in submitting the report. | ขออภัยสำหรับการส่งรายงานที่ล่าช้า |
ความสัมพันธ์ | I’m really sorry if I hurt your feelings. | ฉันขอโทษจริง ๆ หากทำให้คุณเสียใจ |
ความผิดพลาดทั่วไป | I didn’t mean to upset you. | ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณไม่พอใจ |
ขยายเนื้อหา
ในสถานการณ์ที่มีความสำคัญมากขึ้น เช่น ที่ทำงานหรือความสัมพันธ์ส่วนตัว การขอโทษควรแสดงความจริงใจและรับผิดชอบอย่างชัดเจน การใช้คำว่า "sincere" (จริงใจ) หรือ "please forgive me" ช่วยเพิ่มความสุภาพและน้ำหนักของคำขอโทษ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการแก้ตัวในขณะที่ขอโทษ เพื่อให้คำขอโทษดูจริงใจมากขึ้น
3. ประโยคขอโทษที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินและกรณีเร่งด่วน (Apology in Urgent or Emergency Situations)
ประโยคขอโทษเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
-
I’m terribly sorry for the inconvenience caused.
(ฉันขอโทษอย่างสุดซึ้งสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น) -
Please accept our sincerest apologies for this unexpected issue.
(โปรดรับคำขอโทษอย่างจริงใจของเราสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดนี้) -
We apologize for the disruption and will resolve this immediately.
(เราขออภัยสำหรับความไม่สะดวก และจะดำเนินการแก้ไขทันที)
ประโยคขอโทษในกรณีความผิดพลาดร้ายแรง
-
I deeply regret the mistake and am committed to fixing it.
(ฉันเสียใจอย่างสุดซึ้งกับความผิดพลาดนี้และมุ่งมั่นที่จะแก้ไขมัน) -
Our team takes full responsibility for the error.
(ทีมของเราขอรับผิดชอบเต็มที่ต่อความผิดพลาดนี้) -
We understand the severity and sincerely apologize.
(เราเข้าใจความร้ายแรงและขออภัยอย่างจริงใจ)
ตารางเปรียบเทียบคำขอโทษในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ประโยคภาษาอังกฤษ | คำแปลภาษาไทย | ระดับความสุภาพ | สถานการณ์ใช้งาน |
---|---|---|---|
I’m terribly sorry for the inconvenience caused. | ฉันขอโทษอย่างสุดซึ้งสำหรับความไม่สะดวก | สูง | เหตุฉุกเฉิน/ปัญหาที่ไม่คาดคิด |
Please accept our sincerest apologies. | โปรดรับคำขอโทษอย่างจริงใจของเรา | สูง | ขอโทษอย่างเป็นทางการในงานบริการ |
I deeply regret the mistake. | ฉันเสียใจอย่างสุดซึ้งกับความผิดพลาด | สูง | กรณีผิดพลาดร้ายแรง |
ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือกรณีที่เกิดความผิดพลาดใหญ่ เช่น ระบบล่ม การส่งสินค้าผิด หรือบริการล่าช้า การขอโทษต้องแสดงความจริงใจและความรับผิดชอบสูงสุด การใช้คำว่า “terribly sorry”, “deeply regret”, หรือ “sincerest apologies” จะช่วยสื่อถึงความเสียใจอย่างลึกซึ้ง และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการแก้ไขปัญหา
นอกจากนี้ ควรใช้ประโยคที่ชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไข เช่น
-
We will fix this immediately. (เราจะดำเนินการแก้ไขทันที)
-
Our team is working on a solution. (ทีมของเรากำลังหาทางแก้ไข)
ตัวอย่างบทสนทนาในสถานการณ์นี้:
A: I’m sorry, but the shipment was delayed due to technical issues.
A:ขอโทษครับ แต่ว่าการส่งสินค้าล่าช้าเนื่องจากปัญหาทางเทคนิค
B: I understand. Please keep me updated.
B: เข้าใจแล้ว กรุณาแจ้งให้ฉันทราบความคืบหน้าด้วย
4. ประโยคขอโทษแบบไม่เป็นทางการในชีวิตประจำวัน (Informal Apology Sentences)
ประโยคขอโทษแบบเพื่อนสนิทและครอบครัว
-
Oops, sorry about that! (โอ๊ะ ขอโทษทีนะ!)
-
My bad! (ผิดฉันเอง!)
-
Sorry, didn’t mean to! (ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ)
-
Don’t worry about it. (ไม่ต้องกังวลนะ)
-
I messed up. (ฉันทำพลาดไป)
ประโยคขอโทษเวลาทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
-
Sorry for the mess! (ขอโทษสำหรับความเลอะเทอะ)
-
I didn’t mean to bump into you! (ไม่ได้ตั้งใจชนคุณนะ!)
-
Sorry for the noise! (ขอโทษที่เสียงดัง)
-
My mistake! (ผิดของฉันเอง!)
ตารางตัวอย่างประโยคขอโทษแบบไม่เป็นทางการ
ประโยคภาษาอังกฤษ | คำแปลภาษาไทย | สถานการณ์ใช้งาน | ระดับความเป็นกันเอง |
---|---|---|---|
Oops, sorry about that! | โอ๊ะ ขอโทษทีนะ! | ทำผิดพลาดเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน | เป็นกันเองมาก |
My bad! | ผิดฉันเอง! | เมื่อรับผิดชอบความผิดพลาดง่าย ๆ | เป็นกันเองมาก |
Sorry for the mess! | ขอโทษสำหรับความเลอะเทอะ | หลังทำของหกหรือสร้างความวุ่นวาย | เป็นกันเองมาก |
I didn’t mean to bump into you! | ไม่ได้ตั้งใจชนคุณนะ! | ขอโทษเวลาทำร่างกายชนคนอื่น | เป็นกันเองมาก |
ในชีวิตประจำวันกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว เรามักใช้คำขอโทษที่ไม่เป็นทางการเพื่อแสดงความเป็นกันเองและลดความเคร่งเครียด เช่นคำว่า "Oops", "My bad" หรือ "Sorry about that" โดยมักใช้เมื่อเกิดความผิดพลาดเล็ก ๆ ที่ไม่ร้ายแรง และเพื่อให้บรรยากาศเป็นกันเองมากขึ้น
การใช้คำขอโทษแบบไม่เป็นทางการนี้ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและแสดงถึงความสนิทสนม เช่น
-
เมื่อทำแก้วน้ำหก: "Oops, sorry for the mess!" (โอ๊ะ ขอโทษสำหรับความเลอะเทอะ!)
-
เมื่อชนคนโดยไม่ได้ตั้งใจ: "Sorry, I didn’t mean to bump into you." (ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจชนคุณ)
5. เทคนิคและคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขอโทษในภาษาอังกฤษ (Tips & FAQ for Apologizing in English)
เทคนิคการขอโทษให้ดูสุภาพและจริงใจ
-
ใช้คำขอโทษที่เหมาะสมกับสถานการณ์ (เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ)
-
แสดงความรับผิดชอบโดยตรง ไม่แก้ตัว เช่น “I was wrong”
-
ใช้น้ำเสียงและภาษากายช่วยเสริม เช่น สบตาและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
-
เสนอทางแก้ไขหรือชดเชย เช่น “Let me fix this for you.” (ให้ฉันช่วยแก้ไขให้)
-
ฝึกพูดคำขอโทษหลาย ๆ แบบ เพื่อใช้ให้เหมาะสมตามสถานการณ์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
คำถาม (Question) | คำตอบ (Answer) |
---|---|
Q: ควรใช้ “Sorry” กับ “I apologize” ต่างกันอย่างไร? | A: “Sorry” ใช้ทั่วไปและไม่เป็นทางการมาก ส่วน “I apologize” เป็นทางการและเหมาะกับสถานการณ์สำคัญ |
Q: ขอโทษแบบไหนที่ดูจริงใจที่สุด? | A: การใช้คำว่า “I sincerely apologize” หรือ “Please forgive me” มักแสดงความจริงใจที่สุด |
Q: ควรพูดขอโทษอย่างไรเมื่อทำผิดที่ทำงาน? | A: ควรใช้คำขอโทษที่เป็นทางการ เช่น “I apologize for the mistake” และแสดงความรับผิดชอบ |
Q: เมื่อไหร่ควรขอโทษแบบไม่เป็นทางการ? | A: ใช้กับเพื่อนหรือคนรู้จักในสถานการณ์เล็ก ๆ ที่ไม่จริงจัง เช่น “My bad” หรือ “Oops” |
Q: คำขอโทษที่ควรหลีกเลี่ยง? | A: คำขอโทษที่ฟังดูเหมือนไม่จริงใจ หรือมีคำแก้ตัว เช่น “Sorry if you were offended” อาจทำให้ฟังดูไม่จริงใจ |
การขอโทษที่ดีไม่ได้อยู่แค่ที่คำพูดเท่านั้น แต่รวมถึงการแสดงออกทางกายและน้ำเสียงด้วย เช่นเดียวกับในภาษาไทย การพูดขอโทษอย่างจริงใจและสุภาพในภาษาอังกฤษจะช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกว่าเราใส่ใจและเคารพความรู้สึกของเขา การฝึกพูดและเตรียมตัวล่วงหน้าจะช่วยให้เราใช้คำขอโทษได้อย่างเหมาะสมและมั่นใจในทุกสถานการณ์
สรุป
การใช้ ประโยคขอโทษภาษาอังกฤษ เป็นทักษะที่สำคัญในชีวิตประจำวัน ทั้งในสถานการณ์ทั่วไป ที่ทำงาน หรือในเหตุฉุกเฉิน การเลือกใช้คำขอโทษให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความสุภาพ จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและลดความขัดแย้งได้อย่างมาก

Sea