
ประโยคบอกเล่า (Declarative Sentence) คือ?
ประโยคบอกเล่า (Declarative Sentence) คือประโยคที่ใช้ในการบอกเล่าข้อเท็จจริง ความคิดเห็น หรือข้อมูลต่าง ๆ แก่ผู้ฟังหรือผู้อ่าน โดยไม่ต้องการคำตอบหรือการกระทำใด ๆ ตอบกลับ เช่น "I like chocolate." หรือ "The sun rises in the east." เป็นประโยคที่พบได้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ และถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการสื่อสาร ประโยคบอกเล่ามักขึ้นต้นด้วยประธาน (Subject) ตามด้วยกริยา (Verb) และตามด้วยกรรมหรือข้อมูลอื่น ๆ ถ้าจำเป็น โครงสร้างของประโยคบอกเล่าอาจเป็นแบบง่ายหรือซับซ้อนก็ได้ แต่จุดร่วมที่สำคัญคือใช้บอกเล่า ไม่ใช่สั่ง ถาม หรืออุทาน
ตัวอย่าง
She goes to school every day. (ชี โกซ ทู สคูล เอเวอรี เดย์) = เธอไปโรงเรียนทุกวัน
We love reading books. (วี เลิฟ รีดดิ้ง บุคส์) = พวกเราชอบอ่านหนังสือ
โครงสร้างของประโยคบอกเล่า
โครงสร้างพื้นฐานของประโยคบอกเล่าคือ: Subject + Verb + Object (ถ้ามี) + ส่วนขยาย (ถ้ามี)
ประเภท | โครงสร้าง | ตัวอย่างประโยค | คำแปล |
---|---|---|---|
Simple | Subject + Verb | I run. | ฉันวิ่ง |
Extended | Subject + Verb + Object | He reads a book. | เขาอ่านหนังสือ |
Complex | Subject + Verb + Object + Adverbial | She studies English every night. | เธอเรียนภาษาอังกฤษทุกคืน |
หมายเหตุ
หากใช้ Tense ต่าง ๆ โครงสร้างกริยาจะเปลี่ยนตาม เช่น Present, Past, Future
การใช้ "be verb" เช่น is, am, are ก็จัดเป็นประโยคบอกเล่าได้ เช่น "He is a doctor."
ประโยคบอกเล่ากับ Tense ต่าง ๆ
ประโยคบอกเล่าสามารถใช้ได้กับทุก Tense ของภาษาอังกฤษ เช่น Present Simple, Past Simple, Future Simple, Present Perfect เป็นต้น โดยมีรูปแบบกริยาและคำช่วยแตกต่างกัน
Present Simple (ปัจจุบัน)
- โครงสร้าง : Subject + Verb (เติม -s เมื่อประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3)
- ตัวอย่าง
She drinks coffee every morning. = เธอดื่มกาแฟทุกเช้า
I walk to work every day. = ฉันเดินไปทำงานทุกวัน
He plays football on Sundays. = เขาเล่นฟุตบอลทุกวันอาทิตย์
Past Simple (อดีต)
โครงสร้าง : Subject + Verb ช่องที่ 2
ตัวอย่าง
They visited the museum yesterday. = พวกเขาไปพิพิธภัณฑ์เมื่อวาน
I watched a movie last night. = ฉันดูหนังเมื่อคืนนี้
She cooked dinner for her family. = เธอทำอาหารเย็นให้ครอบครัว
Future Simple (อนาคต)
โครงสร้าง : Subject + will + Verb ช่องที่ 1
ตัวอย่าง
I will call you tomorrow. = ฉันจะโทรหาคุณพรุ่งนี้
They will travel to France next week. = พวกเขาจะไปฝรั่งเศสสัปดาห์หน้า
We will have a meeting at 10 AM. = เราจะมีการประชุมตอน 10 โมงเช้า
Present Perfect
โครงสร้าง : Subject + has/have + Verb ช่องที่ 3
ตัวอย่าง
He has finished his homework. = เขาทำการบ้านเสร็จแล้ว
I have seen that movie. = ฉันเคยดูหนังเรื่องนั้นแล้ว
They have visited Japan twice. = พวกเขาเคยไปญี่ปุ่นสองครั้ง
Tips
เลือก Tense ให้เหมาะสมกับเวลาในเหตุการณ์ที่คุณจะบอกเล่า ด้วยนะคะ
ใส่ Adverb เพื่อบอกเวลาให้ชัดเจนขึ้นค่ะ เช่น every day, yesterday, now, already, soon, just, never, always
ฝึกแต่งประโยคโดยเริ่มจากเรื่องใกล้ตัวค่ะ เช่น กิจวัตรประจำวัน หรือสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
ตัวอย่างประโยคบอกเล่าในชีวิตประจำวัน
My father is a teacher. = พ่อของฉันเป็นครู
I like playing football with my friends. = ฉันชอบเล่นฟุตบอลกับเพื่อน
The cat is sleeping on the sofa. = แมวกำลังนอนอยู่บนโซฟา
We went to Chiang Mai last month. = เราไปเชียงใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว
He will travel to Japan next year. = เขาจะไปเที่ยวญี่ปุ่นปีหน้า
She always brings her lunch to work. = เธอมักจะนำอาหารกลางวันไปที่ทำงาน
I have already finished my project. = ฉันทำโปรเจกต์ของฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
They never drink soda. = พวกเขาไม่เคยดื่มน้ำอัดลม
He is reading a new novel. = เขากำลังอ่านนวนิยายเล่มใหม่
We are having dinner together. = พวกเรากำลังกินข้าวเย็นด้วยกัน
ตัวอย่างข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ประโยคบอกเล่าสามารถใช้ได้ในหลายบริบท ทั้งการแนะนำตนเอง การเล่าเหตุการณ์ในอดีต หรือการพูดถึงแผนในอนาคต รวมถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นประจำวัน และเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะพูด
คำศัพท์น่ารู้
Everyday (เอฟ-วะ-รี-เดย์) = ทุกวัน
Yesterday (เยส-เทอะ-เดย์) = เมื่อวาน
Always (ออล-เวยส์) = เสมอ
Already (ออล-เรด-ดี) = แล้ว
Soon (ซูน) = เร็ว ๆ นี้
Sometimes (ซัม-ไทม์ส) = บางครั้ง
Never (เนฟ-เวอร์) = ไม่เคย
Just (จัสต์) = เพิ่งจะ
เคล็ดลับการฝึก
ฝึกแต่งประโยคบอกเล่าเกี่ยวกับตัวเอง เช่น "I am a student."
ใช้คำศัพท์เวลาเข้าช่วย เช่น today, now, yesterday, tomorrow
ลองเขียนบันทึกประจำวันด้วยประโยคบอกเล่า
ฝึกพูดหน้ากระจกหรือกับเพื่อนเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: ประโยคบอกเล่าต้องมีเครื่องหมายอะไรตอนจบ?
A: ประโยคบอกเล่าจบด้วยเครื่องหมายจุด (.) เสมอ เช่น I am happy.
Q: ประโยคบอกเล่าต้องมีกรรมเสมอไหม?
A: ไม่จำเป็น บางประโยคไม่มีกรรม เช่น She sleeps. (เธอนอน)
Q: ประโยคบอกเล่าใช้ใน Tense อะไรได้บ้าง?
A: ใช้ได้ทุก Tense เช่น Present, Past, Future, Present Perfect เป็นต้น
Q: ประโยคบอกเล่ากับประโยคคำสั่งต่างกันอย่างไร?
A: ประโยคบอกเล่าให้ข้อมูล ส่วนประโยคคำสั่ง (Imperative Sentence) เป็นการสั่งหรือขอร้อง เช่น "Close the door."
Q: จะฝึกประโยคบอกเล่าอย่างไรให้เก่ง?
A: ฝึกพูดและเขียนทุกวัน เริ่มจากเรื่องใกล้ตัว เช่น "I go to school at 8 AM."
สรุปท้ายบท
ประโยคบอกเล่า (Declarative Sentence) เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประโยคภาษาอังกฤษที่ควรเรียนรู้ให้เข้าใจ เพราะเป็นรูปแบบที่ใช้บ่อยที่สุดในชีวิตประจำวัน ครอบคลุมการบอกเล่าเรื่องส่วนตัว ข่าวสาร ความคิดเห็น หรือแผนในอนาคต
สรุปจุดสำคัญ
ใช้เพื่อบอกข้อมูล ไม่ใช่สั่งหรือถาม
มีได้ทั้งประโยคง่ายและซับซ้อน
สามารถใช้ได้กับทุก Tense
ควรฝึกพูดและเขียนประโยคบอกเล่าให้คล่อง
หากคุณสามารถแต่งประโยคบอกเล่าได้อย่างมั่นใจ จะทำให้การพูดภาษาอังกฤษของคุณฟังดูเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือมากขึ้นค่ะ

Sea