Future Tense คืออะไร และทำไมต้องเรียนรู้?

ความหมายของ Future Tense

Future Tense (ฟิวเชอร์ เทนส์) หมายถึง กาลที่ใช้พูดถึง "เหตุการณ์ในอนาคต" หรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากเวลาปัจจุบัน โดยมีโครงสร้างประโยคเฉพาะที่แสดงให้เห็นว่า เหตุการณ์นั้นยังไม่เกิดขึ้น

ตัวอย่าง

• I will go to school tomorrow. (ไอ วิล โก ทู สคูล ทูมอร์โรว์) = ฉันจะไปโรงเรียนพรุ่งนี้

• She is going to visit her grandma. (ชี อิส โกอิง ทู วิสิท เฮอร์ แกรนมา) = เธอกำลังจะไปเยี่ยมคุณย่า

เหตุผลที่ควรเรียนรู้ Future Tense

• ใช้สื่อสารเหตุการณ์ล่วงหน้า เช่น การนัดหมาย การวางแผน

• พบบ่อยในการสอบ เช่น TOEIC, IELTS

• ปรากฏในบทสนทนา ภาพยนตร์ และข่าว

Tips

• Future Tense มีหลายรูปแบบ ต้องรู้ความแตกต่างให้ชัดเจน

• ใช้บ่อยในงานเขียนแผนอนาคตและบทพูด

• การใช้ Future Tense อย่างถูกต้องช่วยให้ภาษาอังกฤษดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

เปรียบเทียบ Future กับ Present และ Past

รูปแบบ Future Tense ที่ใช้บ่อยที่สุด

โครงสร้างประโยคของ Will + V.infinitive

หนึ่งใน Future Tense ที่ใช้มากที่สุดคือ "will + กริยารูปเดิม (V.1)" ซึ่งใช้เมื่อเราต้องการแสดงการตัดสินใจทันที หรือคาดการณ์ที่ยังไม่แน่นอน

โครงสร้าง

• ประธาน (Subject) + will + กริยารูปเดิม (V.1)

ตัวอย่าง:

• I will call you tonight. (ไอ วิล คอล ยู ทูไนท์) = ฉันจะโทรหาคืนนี้

• He will arrive at 8 PM. (ฮี วิล อะไรฟ์ แอท เอท พีเอ็ม) = เขาจะมาถึงตอนสองทุ่ม

Going to + V.infinitive สำหรับแผนที่ชัดเจน

ใช้เมื่อมีแผนหรือหลักฐานชัดเจนว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นแน่นอน

โครงสร้าง:

• Subject + be (am/is/are) + going to + V.1

ตัวอย่าง:

• They are going to travel to Japan. (เดย์ อา โกอิง ทู แทรเวล ทู เจแปน) = พวกเขาจะเดินทางไปญี่ปุ่น

• I am going to start a new project. (ไอ แอม โกอิง ทู สตาร์ท อะ นิว โปรเจกต์) = ฉันกำลังจะเริ่มโปรเจกต์ใหม่

Present Continuous เพื่อแผนในอนาคต

แม้จะเป็น tense ปัจจุบัน แต่สามารถใช้กับแผนในอนาคตที่วางไว้แล้ว เช่น ตารางนัดหมาย

โครงสร้าง:

• Subject + is/am/are + V.ing

ตัวอย่าง:

• We are meeting the manager tomorrow. (วี อา มีททิง เดอะ แมนเนเจอร์ ทูมอร์โรว์) = พวกเราจะพบผู้จัดการพรุ่งนี้

• She is flying to New York next week. (ชี อิส ฟลายอิง ทู นิวยอร์ก เน็กซ์ วีค) = เธอจะบินไปนิวยอร์กสัปดาห์หน้า

ตารางเปรียบเทียบ 3 รูปแบบ Future Tense

สรุป:

• Will เหมาะกับการคาดการณ์

• Going to ใช้กับแผนที่มีอยู่

• Present Continuous ใช้กับนัดหมายตารางแน่นอน

วิธีใช้ Future Tense ในบทสนทนา

บทสนทนาตัวอย่างในชีวิตประจำวัน

สถานการณ์: การนัดพบเพื่อน

A: What are you doing this weekend?
(ว็อท อาร์ ยู ดูอิง ดิส วีคเอนด์) = สุดสัปดาห์นี้คุณจะทำอะไร

B: I'm going to visit my grandparents.
(แอม โกอิง ทู วิสิท มาย แกรนพาเรนทส์) = ฉันจะไปเยี่ยมปู่ย่าตายาย

A: Sounds great! I will call you on Sunday.
(ซาวนด์ส เกรท! ไอ วิล คอล ยู ออน ซันเดย์) = ฟังดูดี! ฉันจะโทรหาวันอาทิตย์

B: Okay! Talk to you then.
(โอเค! ทอล์ก ทู ยู เด็น) = ได้เลย! ไว้คุยกันวันนั้น

เคล็ดลับการใช้ Future Tense ให้เป็นธรรมชาติ

• ใช้ will กับคำสัญญา คำขอ และการตัดสินใจเร็วๆ

• ใช้ going to กับเหตุการณ์ที่มีแผนแน่นอน

• ใช้ Present Continuous กับตารางนัดหมาย เช่น การเดินทาง

ตัวอย่างเสริม:

• I think it will rain this evening. = ฉันคิดว่าฝนจะตกเย็นนี้

• They are going to buy a new car. = พวกเขาจะซื้อรถคันใหม่

• We are having dinner with John tomorrow. = เราจะกินข้าวเย็นกับจอห์นพรุ่งนี้

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้ Future Tense

ใช้ Will กับสิ่งที่วางแผนไว้แล้ว

ปัญหา: บางคนใช้ “will” กับเหตุการณ์ที่ได้วางแผนล่วงหน้าแล้ว ซึ่งไม่เหมาะสม

ตัวอย่างผิด:

• I will visit my grandma this weekend. 
  (หากมีแผนแน่นอนแล้ว ควรใช้ going to หรือ Present Continuous)

ตัวอย่างที่ถูกต้อง:

• I am going to visit my grandma this weekend. 

ใช้ Going to กับการตัดสินใจทันที

ปัญหา: บางคนใช้ going to กับเหตุการณ์ที่เพิ่งตัดสินใจทันที ซึ่งควรใช้ will แทน

ตัวอย่างผิด:

• I’m going to help you! 

ตัวอย่างที่ถูกต้อง:

• I will help you! 

ลืมเปลี่ยนกริยาให้ถูกตามรูปแบบ

ปัญหา: บางคนใช้ “will” หรือ “going to” แล้วตามด้วย V.ing หรือ V.2 ซึ่งผิดหลักไวยากรณ์

ตัวอย่างผิด:

• I will going to school. 

• She is going to went there. 

ตัวอย่างที่ถูกต้อง:

• I will go to school. 

• She is going to go there. 

สับสนระหว่าง Present Continuous กับ Present Simple

ปัญหา: บางคนใช้ Present Simple แทน Present Continuous ในการพูดถึงอนาคต

ตัวอย่างผิด:

• We meet John tomorrow. 

ตัวอย่างที่ถูกต้อง:

• We are meeting John tomorrow. 

Future Tense กับ Tense อื่น (เปรียบเทียบการใช้งาน)

Future vs Present Simple

Present Simple ใช้กับเรื่องทั่วไป ความจริง หรือสิ่งที่เป็นประจำ ส่วน Future Tense ใช้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ตัวอย่าง

• The train leaves at 8 a.m. (ปธ. + V.1) = รถไฟออกตอน 8 โมงเช้า (เวลาตารางแน่นอน)

• The train will leave at 8 a.m. = รถไฟจะออกตอน 8 โมงเช้า (เป็นการบอกเล่าล่วงหน้า)

Future vs Present Continuous

Present Continuous ใช้พูดถึงแผนที่แน่นอน ส่วน Future Tense (will/going to) ใช้บอกล่วงหน้า แสดงเจตนา หรือคาดการณ์

ตัวอย่าง

• I am meeting her at 7 p.m. = ฉันจะพบเธอเวลา 1 ทุ่ม (แผนชัดเจน)

• I will meet her at 7 p.m. = ฉันจะพบเธอเวลา 1 ทุ่ม (อาจยังไม่ได้วางแผนไว้)

Future vs Past Tense

Past Tense ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดแล้ว ส่วน Future Tense ใช้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

ตัวอย่าง

• I went to the party last night. = ฉันไปงานเลี้ยงเมื่อคืน

• I will go to the party tonight. = ฉันจะไปงานเลี้ยงคืนนี้

Future vs Present Perfect

Present Perfect ใช้พูดถึงสิ่งที่เริ่มในอดีตและอาจยังต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ส่วน Future Tense พูดถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น

ตัวอย่าง

• I have finished my homework. = ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว (เสร็จในอดีตแต่ยังมีผล)

• I will finish my homework tonight. = ฉันจะทำการบ้านให้เสร็จคืนนี้ (ยังไม่ได้เริ่ม)

สรุปเปรียบเทียบ

Q&A Future Tense

Q: ใช้ will กับ going to แทนกันได้ไหม?
A: ได้บางกรณี เช่นการคาดการณ์ทั่วไป แต่ถ้าเป็นแผนชัดเจน แนะนำให้ใช้ going to

Q: Present Continuous ใช้กับเหตุการณ์ไม่แน่นอนได้ไหม?
A: ไม่ควร เพราะ Present Continuous ใช้กับแผนที่มีการตกลงหรือกำหนดไว้แล้ว

Q: ใช้ shall แทน will ได้ไหม?
A: ได้ในทางการหรือกับ I/we เช่น "I shall return." แต่ในภาษาพูดทั่วไปนิยมใช้ will

สรุปท้ายบทความ

การใช้ Future Tense ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณเข้าใจโครงสร้างแต่ละรูปแบบ เลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็น will, going to หรือ present continuous การฝึกฝนด้วยประโยคตัวอย่างในชีวิตประจำวันและบทสนทนา จะช่วยให้คุณพูดและเขียนได้อย่างมั่นใจ ยิ่งฝึกใช้ Future Tense ทุกวัน วันละ 15-30 นาที ความคล่องแคล่วจะตามมา และที่สำคัญคือ “คุณจะสนุกกับการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้นทุกวัน”