
1. ประโยคบอกเล่า (Declarative Sentence)
ความหมายและหน้าที่
ประโยคบอกเล่า (Declarative Sentence) คือประโยคที่ใช้สำหรับ เล่าเรื่อง บอกข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็น หรือให้ข้อมูลทั่วไป โดยไม่แสดงคำสั่ง คำถาม หรืออารมณ์รุนแรง มักจบประโยคด้วย จุด (.)
จุดเด่นของประโยคบอกเล่า
-
ใช้บอกความจริง เช่น “Water boils at 100 degrees Celsius.”
-
ใช้แสดงความคิดเห็น เช่น “I think this book is interesting.”
-
ใช้บอกสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น “She is working from home today.”
ตัวอย่างประโยค
-
"I am happy today."
(ไอ แอม แฮพ-พี ทู-เดย์)
= วันนี้ฉันมีความสุข -
"He lives in Bangkok."
(ฮี ลิฟส์ อิน แบง-ค็อก)
= เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ
โครงสร้างประโยคบอกเล่า S+V+O
หนึ่งในจุดสำคัญของประโยคบอกเล่า คือ โครงสร้างพื้นฐานที่เป็นหัวใจของภาษาอังกฤษ
นั่นคือ Subject + Verb + Object / Complement

ประโยคตัวอย่าง : She is a teacher. = เธอเป็นครู
- She ทำหน้าที่เป็น ประธาน
- is ทำหน้าที่เป็น กริยา
- a teacher ทำหน้าที่เป็น กรรม/ส่วนขยาย
โครงสร้างที่พบบ่อย
-
Simple Present : I go to school.
-
Present Continuous : She is eating lunch.
-
Past Simple : They watched a movie last night.
ตัวอย่างประโยค
การเรียนรู้จากตัวอย่างจะช่วยให้เข้าใจมากขึ้น นี่คือตัวอย่างประโยคบอกเล่าหลากหลายแบบค่ะ
ประโยคภาษาอังกฤษ | คำอ่าน | คำแปล |
---|---|---|
I like chocolate. | ไอ ไลค์ ช็อค-โก-เลิท | ฉันชอบช็อกโกแลต |
The sun rises in the east. | เดอะ ซัน ไรซ์-เซส อิน เดอะ อีสต์ | ดวงอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออก |
My father is a doctor. | มาย ฟา-เธอร์ อิซ อะ ด็อค-เทอร์ | พ่อของฉันเป็นหมอ |
They live in Chiang Mai. | เดย์ ลิฟ อิน เชียงใหม่ | พวกเขาอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ |
This book is very interesting. | ดิส บุ๊ค อิซ เว-รี อิน-เทรส-ทิง | หนังสือเล่มนี้น่าสนใจมาก |
2. ประโยคคำถาม (Interrogative Sentence)
ประโยคคำถามในภาษาอังกฤษ คือเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการสื่อสารเพื่อขอข้อมูล สอบถามความคิดเห็น หรือยืนยันความเข้าใจ โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ Yes/No Questions และ Wh- Questions
ประโยคคำถาม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ประเภทที่ 1. Yes/No Questions
Yes/No Questions อ่านว่า เยส ออ โน คเวส-ชันส์ คือ คำถามที่ตอบได้ด้วย “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” เช่น
-
Do you like coffee?
(ดู ยู ไลค์ คอฟ-ฟี่?)
= คุณชอบกาแฟไหม? -
Are you a student?
(อาร์ ยู อะ สตู-เดนท์?)
= คุณเป็นนักเรียนใช่ไหม?
ประเภทที่ 2. Wh- Questions
Wh- Questions อ่านว่า ดับเบิลยู-เอช คเวส-ชันส์ คือ คำถามที่ขึ้นต้นด้วยคำถามจำพวก who, what, where, when, why, how เช่น
-
Where do you live?
(แวร์ ดู ยู ลิฟ?)
= คุณอาศัยอยู่ที่ไหน? -
Why is she crying?
(วาย อิซ ชี คราย-อิง?)
= ทำไมเธอถึงร้องไห้?
โครงสร้าง & ตัวอย่างประโยค
ประโยคคำถามมีโครงสร้างแตกต่างจากประโยคบอกเล่า โดยจะต้องสลับตำแหน่งของกริยาช่วย (auxiliary verb) หรือใช้คำถามขึ้นต้น
โครงสร้างประโยคของ Yes/No Questions
Auxiliary Verb + Subject + Verb + (Object)?

ตัวอย่าง
-
Do you play football?
(ดู ยู เพลย์ ฟุต-บอล?)
= คุณเล่นฟุตบอลไหม? -
Is she a doctor?
(อิซ ชี อะ ด็อก-เทอร์?)
= เธอเป็นหมอใช่ไหม?
โครงสร้างประโยคของ Wh- Questions
Wh-word + Auxiliary Verb + Subject + Verb + (Object)?

ตัวอย่าง
-
What do you do?
(ว็อท ดู ยู ดู?)
= คุณทำงานอะไร? -
Where are they going?
(แวร์ อาร์ เดย์ โก-อิง?)
= พวกเขากำลังจะไปที่ไหน?
ตารางสรุปโครงสร้างคำถามภาษาอังกฤษ
รูปแบบคำถาม | โครงสร้าง | ตัวอย่างภาษาอังกฤษ |
---|---|---|
Yes/No Question | Do/Does/Is/Are + S + V | Do you speak English? (ดู ยู สปีค อิง-ลิช?) = คุณพูดภาษาอังกฤษไหม? |
Wh- Question | Wh- + do/does/is/are + S + V | Where do you live? (แวร์ ดู ยู ลิฟ?) = คุณอยู่ที่ไหน? |
Future Question | Will + S + V | Will he come tomorrow? (วิล ฮี คัม ทู-มอ-โร?) = เขาจะมาพรุ่งนี้ไหม? |
Past Question | Did + S + V | Did you see the movie? (ดิด ยู ซี เดอะ มู-วี่?) = คุณดูหนังเรื่องนั้นไหม? |
การตั้งคำถามที่ดีในภาษาอังกฤษไม่ได้ขึ้นอยู่กับไวยากรณ์เพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับน้ำเสียง ความชัดเจน และมารยาทด้วย
Tips สำคัญในการตั้งคำถาม
-
ใช้น้ำเสียงสูงขึ้นเล็กน้อยที่ท้ายประโยค (ใน Yes/No questions)
-
ระบุคำถามให้ชัดเจน อย่าคลุมเครือ
-
ใช้คำถามเปิด (Open-ended questions) เพื่อให้ได้คำตอบที่หลากหลาย
-
หลีกเลี่ยงคำถามที่ฟังดูสั้นเกินไปหรือไม่มีบริบท เช่น “What?” เพียงอย่างเดียว
สรุปความเข้าใจ
-
ประโยคคำถามมี 2 ประเภท: Yes/No และ Wh-
-
โครงสร้างต้องมีการสลับตำแหน่งของ Verb และ Subject
-
ใช้กริยาช่วย (do/does/did/is/are/will) นำหน้าประโยค
-
เสียงขึ้นตอนท้ายเป็นลักษณะเฉพาะของ Yes/No questions
-
การใช้ Wh-question ช่วยให้ได้คำตอบที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
3. ประโยคคำสั่ง/ขอร้อง (Imperative Sentence)
ลักษณะเด่น
ประโยคคำสั่ง หรือ Imperative Sentence คือประโยคที่ใช้เพื่อสั่ง ขอร้อง หรือแนะนำ โดยมีจุดประสงค์ให้ผู้ฟัง “กระทำ” หรือ “งดเว้น” บางสิ่งในทันที ลักษณะเฉพาะของประโยคประเภทนี้ ได้แก่
-
มักไม่มี ประธาน (subject) ชัดเจน เพราะ you ถูกแฝงไว้โดยปริยาย
-
เริ่มต้นประโยคด้วย กริยาในรูป base form (V1)
-
สามารถเสริมคำว่า please เพื่อแสดงความสุภาพ
-
อาจใช้ เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) หรือจุด (.) จบประโยค ขึ้นอยู่กับน้ำเสียง
ตัวอย่างประโยคคำสั่ง Imperative พร้อมคำอ่านและคำแปล
ประโยคภาษาอังกฤษ | คำอ่าน | คำแปล |
---|---|---|
Open the door. | โอ-เพิน เดอะ ดอร์ | เปิดประตู |
Please be quiet. | พลีซ บี ไคว-เอ็ท | กรุณาเงียบ |
Don’t touch that. | โดนท์ ทัช แดท | อย่าแตะอันนั้น |
Take a seat. | เทค อะ ซีท | เชิญนั่ง |
Stop talking! | สต็อป ทอล์ก-กิง! | หยุดพูดเดี๋ยวนี้! |
Please wait here. | พลีซ เวท เฮียร์ | กรุณารอตรงนี้ |
ประโยคคำสั่งแบ่งเป็น 4 รูปแบบ
-
คำสั่งทั่วไป (General commands)
→ Clean your room. = ทำความสะอาดห้องของคุณ -
คำขอร้อง (Polite requests)
→ Please help me. = กรุณาช่วยฉันหน่อย -
คำเตือน (Warnings)
→ Don’t go there! = อย่าไปตรงนั้น! -
คำแนะนำ (Advice)
→ Try your best. = พยายามให้ดีที่สุด
ตารางเปรียบเทียบประโยคคำสั่ง ทั้ง 4 รูปแบบ
ลักษณะ | มีประธานไหม? | เริ่มต้นด้วยอะไร? | ใช้ในสถานการณ์ใดบ้าง? | ตัวอย่างประโยค |
---|---|---|---|---|
คำสั่งทั่วไป | ไม่มี (แฝง you) | กริยา base form | คำสั่ง, การเตือน | Open the window. |
คำขอร้องสุภาพ | ไม่มี (แฝง you) | Please + กริยา | คำขอ, บริการ, การแนะนำ | Please sit down. |
คำเตือน | ไม่มี (แฝง you) | Don’t + กริยา | ห้าม, เตือนภัย | Don’t touch the wires! |
ทางการ/ราชการ | ไม่มี (แฝง you) | กริยา base form | งานราชการ, ป้ายเตือน, กฎระเบียบ | Submit the report today. |
การใช้ประโยคคำสั่ง ในชีวิตจริง
ประโยคคำสั่งพบได้ทุกวัน ทั้งในชีวิตประจำวัน การทำงาน และเอกสารราชการ โดยแบ่งการใช้งานได้หลายประเภท เช่น:
ใช้ในสถานการณ์แนะนำ (Giving Advice)
-
Try to get enough sleep. = พยายามนอนหลับให้เพียงพอ
-
Drink more water. = ดื่มน้ำมากขึ้น
ใช้ในการเตือน (Giving Warnings)
-
Don’t drive too fast. = อย่าขับรถเร็วเกินไป
-
Be careful! = ระวังด้วย!
ใช้ในงานราชการ/เอกสารทางการ (Formal Use)
-
Submit the form by Friday. = ส่งแบบฟอร์มภายในวันศุกร์
-
Sign here. = เซ็นตรงนี้
ใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการความสุภาพ
-
Please have a seat. = กรุณานั่ง
-
Kindly wait your turn. = กรุณารอคิวของคุณ
สรุปข้อควรรู้สำหรับการใช้ประโยคคำสั่ง Imperative
-
ใช้ คำกริยา base form ขึ้นต้นเสมอ
-
ไม่มีประธานเพราะเข้าใจว่าเป็น “you”
-
ใช้คำว่า please เพื่อเพิ่มความสุภาพ
-
สามารถใช้ในการเตือน, ขอร้อง, หรือคำสั่งทางราชการ
-
ลงท้ายด้วย จุด (.) หรือ อัศเจรีย์ (!) ขึ้นอยู่กับน้ำเสียง
4. ประโยคอุทาน (Exclamatory Sentence)
จุดประสงค์ของประโยคอุทาน
ประโยคอุทาน (Exclamatory Sentence) ใช้เพื่อแสดง อารมณ์และความรู้สึกอย่างรุนแรง ซึ่งอาจเป็น
-
ความตื่นเต้น (Excitement)
-
ความตกใจ (Surprise)
-
ความประทับใจ (Admiration)
-
ความเศร้า (Sadness)
-
ความโกรธ (Anger)
ลักษณะพิเศษคือ ลงท้ายด้วยเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) เสมอ เพื่อเน้นอารมณ์ของผู้พูด

โครงสร้างของประโยคอุทาน
ประโยคอุทานมี 2 โครงสร้างหลัก ที่ใช้บ่อย ได้แก่
โครงสร้าง | รูปแบบการเขียน | คำอธิบาย |
---|---|---|
What + (a/an) + adj + n + ! | What a lovely house! | ใช้กับคำนามและคำคุณศัพท์ |
How + adj/adv + subject + verb! | How beautiful she is! / How fast he runs! | ใช้กับคำคุณศัพท์หรือคำกริยาวิเศษณ์ |
หมายเหตุ
-
ใช้ What กับ คำนาม (Noun)
-
ใช้ How กับ คำคุณศัพท์ (Adjective) หรือ คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb)
-
ลงท้ายด้วย เครื่องหมาย ! เสมอ
ตัวอย่างประโยคอุทานพร้อมคำอ่านและคำแปล
ประโยคภาษาอังกฤษ | คำอ่าน (Pronunciation) | คำแปลภาษาไทย |
---|---|---|
What a beautiful view! | ว็อท อะ บิว-ทิ-ฟูล วิว! | วิวดียิ่งนัก! |
How fast she runs! | ฮาว ฟาสท์ ชี รันส! | เธอวิ่งเร็วมาก! |
What a big surprise! | ว็อท อะ บิก เซอ-ไพรซ์! | ช่างน่าประหลาดใจจริง ๆ! |
How cold it is today! | ฮาว โคลด์ อิท อิส ทู-เดย์! | วันนี้หนาวจริง ๆ! |
What a great idea! | ว็อท อะ เกรท ไอ-เดีย! | ช่างเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมอะไรอย่างนี้! |
How lovely your voice is! | ฮาว ลัฟ-ลี่ ยัวร์ วอยซ์ อิส! | เสียงของคุณไพเราะจริง ๆ! |
การใช้ประโยคอุทาน ในชีวิตประจำวัน
ประโยคอุทานถูกใช้บ่อยในสถานการณ์ต่อไปนี้
แสดงความประหลาดใจ
-
What a strange noise! = เสียงอะไรแปลก ๆ แบบนี้นะ!
-
How unexpected! = คาดไม่ถึงเลย!
แสดงความยินดี / ชื่นชม
-
What a wonderful gift! = ของขวัญอะไรช่างวิเศษเช่นนี้!
-
How sweet of you! = คุณช่างใจดีอะไรอย่างนี้!
แสดงความโกรธ / ความผิดหวัง
-
What a mess! = เละเทะอะไรแบบนี้!
-
How dare you! = กล้าดียังไง!
ใช้ในการพูดในละคร หนัง หรือบทสนทนาอารมณ์สูง
-
ใช้สื่อสารอารมณ์ที่เข้มข้น เช่น การร้องไห้ ดีใจ หรือโกรธ
-
ทำให้บทสนทนามีชีวิตชีวามากขึ้น
ตารางเปรียบเทียบ 4 โครงสร้างประโยคอุทานที่ใช้บ่อย
ประเภท | โครงสร้างประโยค | ตัวอย่างภาษาอังกฤษ | คำแปล |
---|---|---|---|
ประหลาดใจ (Surprise) | What + (a/an) + adj + noun! | What a shock! | ช่างน่าตกใจอะไรเช่นนี้! |
ชื่นชม (Admiration) | How + adj + S + V! | How amazing this is! | สิ่งนี้ช่างวิเศษจริง ๆ! |
ความโกรธ (Anger) | How dare + S + V! | How dare you speak to me! | กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้กับฉัน! |
ความเสียใจ (Sadness) | What a sad story! | What a sad story! | เรื่องนี้ช่างน่าเศร้าเหลือเกิน! |
ข้อควรจำเกี่ยวกับประโยคอุทาน
-
ประโยคอุทานใช้เพื่อสื่ออารมณ์ที่รุนแรง
-
ใช้ “What” กับคำนาม, “How” กับคำคุณศัพท์
-
ลงท้ายด้วยเครื่องหมาย “!”
-
ช่วยให้ประโยคมีชีวิตชีวา เหมาะกับการพูด การเขียนบท หรือการแสดงอารมณ์
Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Sentence Types
Q: มีประโยคประเภทอื่นนอกจาก 4 นี้ไหม?
A: ไม่มี ประเภทหลักที่ใช้จริงในทุกบริบทคือ 4 แบบนี้ครับ
Q: จะสังเกตประโยคประเภทไหนง่ายๆ ได้อย่างไร?
A: ดูที่คำลงท้าย (. / ? / !) และโครงสร้างประโยค
Q: เรียนจำประเภทประโยคได้เร็วทำอย่างไร?
A: ฝึกเขียน-อ่านประโยคเป็นหมวด พร้อมฝึกสังเกตบริบทครับ
สรุปท้ายบท
เรียนรู้ 4 ประเภทประโยคภาษาอังกฤษ (Declarative, Interrogative, Imperative, Exclamatory) จะช่วยให้:
-
สื่อสารได้ชัดเจนตรงประเด็น
-
เลือกใช้ประโยคให้เหมาะกับบริบท
-
พัฒนาการเขียนและพูดภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจ
ใช้ โครงสร้างต่างๆ + จุดวรรคตอน ให้ถูกต้อง จะช่วยยกระดับภาษาของคุณได้ทันทีค่ะ

Sea