Preposition หรือคำบุพบท เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ที่ใช้เชื่อมโยงคำนาม สรรพนาม หรือวลีเข้ากับส่วนอื่นของประโยค เพื่อแสดงความสัมพันธ์ด้านสถานที่ เวลา สาเหตุ และอื่น ๆ บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจ Preposition อย่างละเอียด พร้อมคำอ่านภาษาไทย คำแปล และตัวอย่างประโยคที่ใช้ได้จริง


ความหมายและประเภทของ Preposition (Meaning and Types of Preposition)

Preposition คือคำที่ใช้เชื่อมโยงคำนามหรือสรรพนามกับคำอื่น ๆ ในประโยค เพื่อบอกความสัมพันธ์ เช่น สถานที่ เวลา วิธีการ หรือเหตุผล

ประเภทของ Preposition ที่พบมากที่สุด (Common Types of Preposition)

ประเภท Preposition ตัวอย่าง Preposition คำแปล การใช้งาน
Preposition of Place (สถานที่) in, on, at, under, above, beside
(อิน, ออน, แอท, อัน-เดอร์, อะ-บัฟ, บาย-ไซด์)		 ใน, บน, ที่, ใต้, เหนือ, ข้าง ๆ ใช้บอกตำแหน่งหรือสถานที่ เช่น อยู่ใน, บน, ใกล้
Preposition of Time (เวลา) at, on, in, before, after, during
(แอท, ออน, อิน, บีฟ-ฟอร์, แอฟ-เทอร์, ดู-ริง)		 ที่, ใน, ก่อน, หลัง, ระหว่าง ใช้บอกเวลา เช่น เวลา, วันที่, เดือน, ก่อน, หลัง
Preposition of Direction (ทิศทาง) to, into, onto, toward, through
(ทู, อิน-ทู, ออน-ทู, ทู-เวิร์ด, ธรู)		 ไปยัง, เข้า, บน, สู่, ผ่าน ใช้บอกทิศทางหรือการเคลื่อนที่ เช่น ไปยัง
Preposition of Cause (เหตุผล) because of, due to, owing to, thanks to
(บีคอซ ออฟ, ดู ทู, โอ-อิง ทู, แธงก์ส ทู)		 เพราะว่า, เนื่องจาก, ด้วยเหตุผล ใช้บอกเหตุผลหรือสาเหตุ
Preposition of Instrument (เครื่องมือ) by, with
(บาย, วิธ)		 โดย, ด้วย ใช้บอกเครื่องมือหรือวิธีการ เช่น โดย, ด้วย

ตัวอย่างการใช้ Preposition ตามประเภทต่าง ๆ

  • The book is on the table. (หนังสืออยู่บนโต๊ะ)
  • She was born in July. (เธอเกิดในเดือนกรกฎาคม)
  • We walked to the park. (พวกเราเดินไปที่สวนสาธารณะ)
  • The flight was delayed because of bad weather. (เที่ยวบินล่าช้าเพราะสภาพอากาศเลวร้าย)
  • He wrote the letter with a pen. (เขาเขียนจดหมายด้วยปากกา)


ตารางคำศัพท์ Preposition พร้อมคำอ่านและคำแปล

คำบุพบท (Preposition) คำอ่านภาษาไทย (Thai Pronunciation) คำแปล (Translation)
in อิน ใน
on ออน บน
at แอท ที่
under อัน-เดอร์ ใต้
above อะ-บัฟ เหนือ
beside บาย-ไซด์ ข้าง ๆ
before บีฟ-ฟอร์ ก่อน
after แอฟ-เทอร์ หลัง
during ดู-ริง ในช่วง
to ทู ไปยัง
into อิน-ทู เข้าไปใน
onto ออน-ทู ขึ้นไปบน
toward ทู-เวิร์ด ไปทาง
through ธรู ผ่าน
because of บีคอซ ออฟ เพราะว่า
due to ดู ทู เนื่องจาก
owing to โอ-อิง ทู ด้วยเหตุผล
thanks to แธงก์ส ทู ด้วยความช่วยเหลือของ
by บาย โดย
with วิธ ด้วย


กฎและข้อควรระวังในการใช้ Preposition (Rules and Common Mistakes with Prepositions)

การใช้ Preposition ให้ถูกต้องในภาษาอังกฤษมีความสำคัญมาก เพราะหากใช้ผิดอาจทำให้ความหมายของประโยคเปลี่ยนไปหรือสื่อสารผิดความหมายได้ บางกฎและข้อควรระวังที่ควรรู้มีดังนี้

กฎสำคัญในการใช้ Preposition

Preposition ต้องตามด้วยคำนาม (Noun) หรือคำสรรพนาม (Pronoun) เท่านั้น เช่น

  • Correct: I am interested in music.
  • Incorrect: I am interested in.

หลีกเลี่ยงการใช้ Preposition ท้ายประโยคในภาษาเขียนอย่างเป็นทางการ แต่ในภาษาอังกฤษแบบพูด มักยอมรับ เช่น

  • Formal: To whom did you give the book?
  • Informal: Who did you give the book to?

ไม่ใช้ Preposition ตามหลังคำกริยาโดยไม่มีวัตถุ เช่น

  • Incorrect: She looks after.
  • Correct: She looks after her brother.


ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข

ความผิดพลาด ตัวอย่างผิด ตัวอย่างถูก คำอธิบาย
ใช้ preposition ผิดกับคำกริยาที่ต้องการ She depends of her parents. She depends on her parents. "depend" ต้องใช้ "on" ไม่ใช่ "of"
ใช้ preposition ซ้ำซ้อน He entered into the room. He entered the room. "enter" ไม่ต้องใช้ preposition กับ "into"
ใช้ preposition ไม่ถูกกับคำที่ตามมา We discussed about the problem. We discussed the problem. "discuss" ไม่ต้องใช้ preposition
ใช้ preposition ท้ายประโยคที่ไม่เหมาะสม Where are you at? Where are you? หลีกเลี่ยง "at" ท้ายประโยคแบบทางการ


ตัวอย่างประโยคและบทสนทนาใช้ Preposition (Sentence & Conversation Examples)

การเรียนรู้ผ่านตัวอย่างประโยคและบทสนทนาเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจดจำการใช้ Preposition ได้ดียิ่งขึ้น ด้านล่างนี้คือประโยคตัวอย่างที่ใช้ Preposition หลากหลาย พร้อมคำอ่านภาษาไทยและคำแปลอย่างละเอียด

ตัวอย่างประโยคพร้อมคำอ่านและคำแปล

  • She is at school now.
    (ชี อีส แอท สกูล นาว)
    แปลว่า : เธออยู่ที่โรงเรียนตอนนี้
  • The keys are on the table.
    (เดอะ คีย์ส อาร์ ออน เดอะ เทเบิล)
    แปลว่า : กุญแจอยู่บนโต๊ะ
  • I will meet you in the morning.
    (ไอ วิล มีท ยู อิน เดอะ มอร์นิง)
    แปลว่า : ฉันจะพบคุณในตอนเช้า
  • He walked through the forest.
    (ฮี วอล์กด์ ธรู เดอะ ฟอเรสต์)
    แปลว่า : เขาเดินผ่านป่า
  • She succeeded because of her hard work.
    (ชี ซัคซีดิด บีคอส ออฟ เฮอร์ ฮาร์ด เวิร์ก)
    แปลว่า : เธอประสบความสำเร็จเพราะความขยันของเธอ

ทสนทนาโต้ตอบที่ใช้ Preposition

  • A: Where are you going?
    (แวร์ อาร์ ยู โกอิง?)
    แปลว่า : คุณกำลังจะไปไหน?
  • B: I’m going to the supermarket.
    (ไอม์ โกอิง ทู เดอะ ซูเปอร์มาร์เก็ต)
    แปลว่า : ฉันกำลังจะไปซูเปอร์มาร์เก็ต
  • A: Did you find your phone?
    (ดิด ยู ไฟนด์ ยัวร์ โฟน?)
    แปลว่า : คุณเจอโทรศัพท์ของคุณไหม?
  • B: Yes, it was under the sofa.
    (เยส อิท วอส อันเดอร์ เดอะ โซฟา)
    แปลว่า : เจอแล้ว มันอยู่ใต้โซฟา


เทคนิคจำ Preposition ง่ายๆ

  • ใช้ภาพช่วยจำ (Visualization) ลองวาดรูปภาพ เช่น โต๊ะ แล้ววางของ "on the table", "under the table", "next to the table" จะช่วยให้จำ Preposition สถานที่ได้ง่ายขึ้น
  • จับคู่คำกับสถานการณ์จริง เช่น
    - “at school” = เวลาเรียน
    - “in the car” = ขณะอยู่ในรถ
    - “on the phone” = ขณะคุยโทรศัพท์
  • ใช้ Mind Map แยกตามประเภท Preposition เช่น
    วาดหมวด "สถานที่" แล้วแตกเป็น in, on, at เป็นต้น


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Preposition (FAQ about Prepositions)

Q: Preposition แตกต่างจาก Conjunction อย่างไร?

A:  Preposition ใช้เชื่อมคำนามหรือวลีเพื่อแสดงความสัมพันธ์ เช่น on the table ส่วน Conjunction ใช้เชื่อมประโยคหรือคำ เช่น and, but, because


Q: ควรใช้ “in” หรือ “on” กับวันและเวลา?

A: “in” ใช้กับเดือน ปี หรือช่วงเวลา เช่น in July, in the morning

“on” ใช้กับวันหรือวันที่เฉพาะเจาะจง เช่น on Monday, on December 1st


Q: มี Preposition ที่ต้องระวังเป็นพิเศษไหม?

A: มีคำที่อาจใช้ผิดบ่อย เช่น “discuss” ไม่ต้องตามด้วย "about"

  • Correct: We discussed the problem.
  • Incorrect: We discussed about the problem.


สรุปบทความ: เรียนรู้ Preposition อย่างมั่นใจ ใช้งานได้จริงในทุกบริบท

  • Preposition เป็นพื้นฐานของการเรียนภาษาอังกฤษที่ควรฝึกให้เข้าใจลึกซึ้ง

  • ควรฝึกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทต่าง ๆ เช่น สถานที่ เวลา ทิศทาง เหตุผล และวิธีการ

  • ใช้ตัวอย่างประโยคและบทสนทนาเพื่อจดจำรูปแบบการใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • หมั่นฝึกฝนด้วยแบบฝึกหัดและเทคนิคช่วยจำเพื่อความแม่นยำ

  • เข้าใจข้อผิดพลาดทั่วไปเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ผิด